บทความโดย มารีอา
"ความรักนั้นก็อดทน..." 1 โครินธ์ 13 : 4
พระคัมภีร์ข้อนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและเป็นที่โปรดปรานของใครต่อใคร
แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า ประโยคแรกของพระคัมภีร์ข้อนี้ มีความหมายอย่างไรกันแน่
"ความรักนั้นก็อดทน" ...ฟังแล้วดูแย่และยากลำบากเหลือเกิน
มีคนเคยบอกฉันว่า "ถ้ารักแล้วต้องอดทน ก็อย่ารักเลยดีกว่า"
เขาอธิบายว่า "คนที่รักกัน ไม่จำเป็นต้องอดทนซึ่งกันและกัน เพราะมันดูเหมือนเป็นการฝืน
คนที่รักกันควรที่จะอยู่ด้วยกันอย่างสบาย ๆ ไม่ถือตัว ไม่มีทิฐิ ไม่ต้องอดทน
เมื่อมีเหตุขัดข้องใจ ก็ให้พูดกันตรง ๆ ไม่ต้องอดทน เพราะความอดทนจะทำให้เราอึดอัดใจ
และสุดท้าย มันก็จะทำลายความรักของเรา"
แต่ฉันเชื่อว่า...คำว่า "อดทน" ในพระคัมภีร์ข้อนี้ ไม่ได้หมายความอย่างข้างบนแน่นอน
ถึงแม้ว่า...ฉันจะไม่เคยเรียนคำสอนในระบบเลยก็ตาม...
สำหรับฉัน คนที่รักกันต้องมีความอดทนอย่างมากมาย
เนื่องจากคนเราแตกต่างกัน และน้อยมากที่คนเราจะชอบความเป็นตัวตนของคนรักไปทุกอย่าง
มันก็ต้องมีบ้าง อย่างน้อยหนึ่งประการที่เรารู้สึกไม่ชอบ...เพราะคนเราแตกต่าง
คนที่เป็นคู่รัก ความไม่ชอบในซึ่งกันและกันนั้นคงมีปริมาณน้อยกว่าแน่นอน
แต่เราก็ต้องยอมรับว่า บางทีเราก็ไม่สามารถแก้ไขคนอื่นให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้
แม้จะด้วยอานุภาพของความรักก็ตาม...ด้วยเหตุนี้ รักจึงต้อง "อดทน"
ความอดทนจะทำให้เราไม่ตำหนิติเตียนคนรักให้เสียใจ
เพราะบางครั้ง สิ่งที่เราติเตียนนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แก้ไขไม่ได้ แต่เราเพียง "ไม่ชอบ"
ความอดทนจะทำให้เราต่างก็รักษาตัวตนอันแท้จริงเอาไว้
ให้เรารักคน ๆ นั้น ในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่เป็นอย่างที่เราอยากจะให้เป็น
ไม่ต้องเสแสร้ง ทำมารยาใด ๆ ที่จะทำให้ความบริสุทธิ์ของความรักเสื่อมเสียไป
รักจึงอดทน...อดทนต่อความไม่ชอบอันน้อยนิด และอดทนอย่างมีเหตุผล
เพื่อให้ความรักอันยิ่งใหญ่...ได้คงอยู่และสวยงามต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น